ลดน้ำหนักแบบไม่ออกกำลังกายทำได้ยังไงกัน มาส่องรีวิวลดความอ้วนด้วยตัวเองแบบที่ไม่ออกกำลังกาย แต่ทำน้ำหนักลดลงไปได้ถึง 11 กิโลกรัม !
สายกินและสายขี้เกียจที่ไม่ชอบเลยกับการออกกำลังกาย แต่ในใจก็อยากพยายามลดน้ำหนักอยู่ ลองมาดูวิธีลดความอ้วนของสาวคนนี้ ที่เธอใช้
วิธีลดน้ำหนัก แบบไม่ออกกำลังกาย แต่ทำน้ำหนักตัวหายไปกว่าสิบกิโลฯ โอ้โห…ทำได้ไงเนี่ย !
สวัสดีชาวพันทิปทุกคนค่ะ เราชื่อนุ่นนะคะ วันนี้เราตัดสินใจจะมารีวิวพลีชีพรูปความอ้วนของตัวเอง ด้วยการลดน้ำหนัก 11 กิโลฯ ภายในเวลา 1 ปี แบบไม่ออกกำลังกาย แต่ใช้วิธีคุมอาหารอย่างเดียวค่ะ
…ก่อนอื่นให้ดูรูป Before & After แบบชัด ๆ ในเสื้อผ้าชุดเดียวกันก่อนเลย
รูปซ้ายคือถ่ายช่วงปี 2017 ส่วนรูปขวาคือถ่ายเมื่อ สิงหาคม 2019 …ตอนนั้นน้ำหนักสูงสุดในชีวิตคือประมาณ 53.5 กิโลฯ ได้ค่ะ ช่วงนั้นคือกินแต่บิงซูมะม่วงเกือบทุกวัน !!
มาดูรูปตอนปี 2016-2017 กันค่ะ
…มาเข้าไฮไลท์กันต่อเลยค่ะ…
จุดเริ่มต้นที่เราเริ่มลดน้ำหนัก คือ ช่วงต้นปี 2018 ตอนนั้นรู้สึกว่าอ้วน และช่วงนั้นเรางานยุ่ง ทำให้เราไม่ค่อยมีเวลาทานอาหารกลางวันค่ะ ทานบ้างไม่ทานบ้างแล้วแต่ความยุ่ง แต่พอสักระยะ เราเห็นการเปลี่ยนแปลงจากการทานน้อยลงของเราค่ะ เราเห็นว่าน้ำหนักเราเริ่มลดลง ทีนี้เราก็หันมาตั้งใจจริงจังเลยค่ะ คือ อาศัยความยุ่งเป็นตัวช่วย กลางวันเราไม่กินมื้อหนักเลยค่ะ เรากินแต่นม Low Fat และผลไม้ เช่น แอปเปิล สับปะรด เป็นต้น
เราจะกินมื้อหลักจริงจังแค่มื้อเดียวคือตอนเย็น ซึ่งอาหารที่เรากิน เราเริ่มใส่ใจกับการเลือกเมนูอาหารมากขึ้น เราเริ่มลดข้าวสวย ลดแป้ง เน้นกินแต่กับข้าว ส่วนปิ้งย่าง ติดมันก็ยังกินปกตินะคะ หลัก ๆ คือเน้นลดแป้ง และขนมหวาน จากที่เมื่อก่อน กินกันแทบจะวันเว้นวัน ก็ลดลง ๆ และถ้าวันไหนอยากกินของหวานจริง ๆ อย่างพวกชานมไข่มุก เราก็จะลดปริมาณอาหารที่กินในมื้อหลักลงไป เพื่อให้แคลอรีในแต่ละวัน ไม่มากเกินไป
นอกจากนี้เราได้ฟังรายการวิทยุช่อง 107 ที่คุณมิกกี้ (แฟนของคุณเจนี่) จัดรายการ เค้าก็บอกว่าในแต่ละวันแค่เราคุมแคลอรีได้ เราก็ไม่อ้วนค่ะ มันเปรียบเสมือนเงินในกระเป๋า ถ้าวันนี้คุณมี 100 บาท และคุณไม่กดเงินเพิ่ม เงินจะยังอยู่ในกระเป๋า 100 บาท ซึ่งถ้าคุณใช้เงิน 20 บาท เงินในกระเป๋าวันนั้นก็จะเหลือ 80 …จริง ๆ แล้วมันเหมือนแคลอรีค่ะ แต่ละวัน จะกินช่วงเวลาไหน ก็ไม่ต่างกัน เราเน้นกินมื้อเย็น แต่ไปเบาช่วงเช้าถึงกลางวัน อันนี้แล้วแต่ความสะดวกและพฤติกรรมของแต่ละคน ถ้าใน 1 วัน เรากินสิ่งที่เป็นไขมันหรือแคลอรีต่ำ แต่เราใช้พลังงานเยอะ มันก็จะไปดึงไขมันสะสมในร่างกายของเราออกมาใช้
อย่างนุ่นเอง แขน ขา สัดส่วนตัวลดลงเอง โดยที่ไม่ได้ออกกำลังกายเลยค่ะ และไม่เหี่ยวไม่อะไรทั้งนั้น คือเล็กลงและผิวพรรณก็ยังปกติค่ะ (เป็นคนไม่ทาครีมอะไรทั้งนั้นเลยด้วย)
น้ำหนักและสัดส่วนจะค่อย ๆ ลดลง จะเร็วในช่วงแรก แต่ช่วงหลัง ๆ ก็อยู่ที่กินและการใช้พลังงานของเราด้วยค่ะ ถ้าอยากลดอีก ก็ต้องใช้พลังงานให้มากกว่าแคลอรีที่กินเข้าไปค่ะ
หลังจากที่เริ่มลดอย่างจริงจังตอนช่วงมกราคม 2018 น้ำหนักนุ่นก็ลดลงมาเรื่อย ๆ …ตอนงานแต่งของนุ่น สิงหาคม 2018 นุ่นมีน้ำหนักอยู่ที่ราว ๆ 45 กิโลกรัม ค่ะ
และหลังจากงานแต่ง นุ่นก็ยังคงควบคุมน้ำหนักต่อด้วยการคุมอาหาร จนมาปัจจุบันอยู่ที่ 42-43 กิโลกรัมค่ะ
และนี่คือรูปปัจจุบันค่ะ กันยายน 2019 จะเห็นได้ว่าสัดส่วนลดลงไป แก้มและหน้าก็เล็กลง ส่งผลให้มีลักยิ้ม 2 ข้าง โดยไม่ต้องไปศัลยกรรมให้เปลืองเงินและเจ็บตัวเลยค่ะ 555 พอผอมลง เราทุกคนก็จะสวยขึ้นอย่างธรรมชาติ และเป็นผลดีกับร่างกายที่สุดค่า
สุดท้ายนี้… รูปเช้านี้ก่อนตั้งกระทู้น้ำหนักอยู่ที่ 42.2 กิโลค่ะ เย้
หวังว่าสิ่งที่นุ่นแชร์ในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับสาว ๆ ที่อยากลดความอ้วนด้วยตัวเอง …ใครที่มองหาทางเลือก ไม่ว่าจะกินยาลดความอ้วน หรือผ่าตัดดูดไขมัน นุ่นไม่แนะนำอย่างแรง นอกจากเสียเงินแพงแล้วยังต้องมาเจ็บตัว และถ้าเรายังคงมีพฤติกรรมแบบเดิม เงินและการเจ็บตัวที่เราลงทุนไปกับมันจะกลายเป็นสูญเปล่าทันทีค่ะ
- PS1. ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากลดน้ำหนัก ทุกคนทำได้ค่ะ แค่รักตัวเองให้มากพอ และเอาชนะใจตัวเองสำคัญที่สุดเลยค่ะ
- PS2. ถ้าใครชอบติดตาม LIFESTYLE การกิน การถ่ายรูปของนุ่นก็มาติดตามใน IG: ploypitchyyy กันได้นะคะ
อย่างไรก็ตาม การลดน้ำหนักให้สำเร็จก็ขึ้นอยู่กับการมีวินัยและความสม่ำเสมอของตัวเราเอง ที่สำคัญอย่าหักโหมในการลดน้ำหนักมากจนเกินไป และพยายามบาลานซ์ชีวิตในแบบที่ตัวเองสะดวกใจ สะดวกกายจะดีที่สุด เพราะเราจะสามารถทำอย่างนั้นไปได้นาน ๆ นั่นเองค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
สมาชิกหมายเลข 1792556 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
Youtube Channel : Ploypitchyyy’s Channel
อินสตาแกรม ploypitchyyy
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
บุคคลที่เกี่ยวข้อง
สถานที่ที่เกี่ยวข้อง
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
ที่มา : http://health.kapook.com/view215370.html
ขอขอบคุณ : http://health.kapook.com/view215370.html