โอบกอดความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณมนุษย์เพื่ออยู่เหนือความทุกข์ยากในช่วงเวลาที่ไม่เคยมีมาก่อน แบรนด์สกินแคร์ SK-II ปล่อยภาพยนตร์สั้น “The Center Lane” ภาพยนตร์สั้นเรื่องแรกจาก SK-II STUDIO สตูดิโอภาพยนตร์ระดับโลกแห่งแรกของทางแบรนด์ โดยถ่ายทอดเรื่องราวที่พลิกชะตาชีวิตของนักว่ายน้ำสาว ริคาโกะ อิเคเอะ (Rikako Ikee) ที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมีย พร้อมกับการกลับคืนสู่การแข่งขันการว่ายน้ำของเธอ
ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ (Hirokazu Koreeda) ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลหลายรายการมาเป็นผู้กำกับ โดย The Center Lane จะเป็นภาพยนตร์สั้นเรื่องแรกจากทั้งหมด 8 เรื่อง ที่ SK-II STUDIO จะปล่อยออกมาในปีนี้เพื่อที่จะนำเสนอให้ผู้ชมเห็นว่า โชคชะตาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นทางเดินที่เราสามารถกำหนดได้เอง
ชมภาพยนตร์สั้น THE CENTER LANE
“ฉันมีความสุขมากที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจคที่น่าชื่นชมนี้ และฉันยังอยากกล่าวขอบคุณ SK-II และ คุณโคเรเอดะ ที่ทำให้ฉันได้มีโอกาสถ่ายทอดให้คนอื่นรับรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของฉัน ผ่านภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้” ริคาโกะ อิเคเอะ ได้แบ่งปันเรื่องราวของเธอและร่วมงานเป็นเวลาเกือบปีกับ SK-II เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญ #ChangeDestiny “ผู้คนอีกหลายล้านคนจากทั่วโลกได้เผชิญหน้ากับความยากลำบากและฉันรู้ว่าหลายๆครั้งที่มีเรื่องร้ายๆถาโถมเข้ามา คุณมักจะเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมต้องเป็นเรา ในเวลาแบบนี้ฉันอยากให้ทุกคนจำเอาไว้ว่าเราต้องผ่านมันไปได้ด้วยความอดทน ความเพียรพยายาม และการไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาเพราะคุณสามารถกำหนดได้ด้วยตัวของคุณเอง ถึงแม้ว่าเราอารจจะไม่สามารถกลับไปอยู่ในจุดที่เราเคยอยู่มาก่อน แต่โชคชะตาคือสิ่งที่เรากำหนดด้วยสิ่งที่เรากำลังทำในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าสิ่งที่คุณกำลังเผชิญอยู่จะหนักหนาหรือยากแค่ไหน ฉันเชื่อว่าเราทุกคนจะผ่านมันไปได้และมันจะเปลี่ยนอนคตของเราให้ดีกว่าเดิม”
ภาพยนตร์ “The Center Lane” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคำพูดของ ริคาโกะ อิเคเอะ ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับโคเรเอดะเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่พบกัน “ฉันรักลู่ว่ายตรงกลางของสระและฉันมักจะได้ว่ายอยู่ในลู่นั้นเสมอ ซึ่งมันเป็นลู่สำหรับคนที่ว่ายเร็วที่สุด และฉันรู้สึกปลอดภัยทุกครั้ง ราวกับว่าลู่นี้สร้างมาเพื่อฉัน ลู่ที่สร้างมาเพื่อฉันคนเดียว” ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้เป็นการผสมผสานกันระหว่างการถ่ายทำแบบสารคดี (live documentary) กับอนิเมชั่น เพื่อแสดงให้เห็นถึงความหวัง และความกดดันที่อิเคเอะต้องเผชิญ
“ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์และพูดคุยกับอิเคเอะ ถึงความรู้สึก ความคิด และหลายๆอย่างที่เธอต้องเผชิญในการพยายามเตรียมตัวสำหรับการหวนคืนสู่การว่ายน้ำอีกครั้งหลังจากเธอหายจากลูคีเมีย” ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ กล่าว “เรื่องราวความพยายามของอิเคเอะ มันน่าประทับใจและเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเรื่องของเธอนั้นจะแตกต่างจากคนอื่น แต่ผมเชื่อว่าหากคุณชมภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณจะสามารถเชื่อมโยงกับเรื่องราวในชีวิตคุณได้ ผมเชื่อว่าชีวิตของเรามักจะไม่ได้เรียบง่ายและมักเผชิญกับอุปสรรคอยู่เสมอ แต่อย่างไรก็ตามอุปสรรคเหล่านี้จะทำให้เราค้นพบกับความแข็งแกร่งของตัวเอง”
ริคาโกะ อิเคเอะ นักว่ายน้ำหญิงชาวญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในผู้เล่นทรงคุณค่าที่สุด (Most Valued Player) ของ กีฬาอาเซียนปี 2018 และยังเป็นผู้เข้าชิงเหรียญทองจาก 2020 Tokyo Olympics ก่อนเธอจะถูกพบว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมียเมื่อกุมภาพันธ์ ปี 2019 ที่ผ่านมา เดือนพฤษภาคม 2020 ริเคเอะได้รับการรักษาลูคีเมียและร่วมแชร์เรื่องราวของเธอกับ SK-II เรื่องราวของอิเคเอะที่ไม่ยอมแพ้และไม่สิ้นหวังแม้จะป่วยได้ทำให้ผู้คนทั่วประเทศญี่ปุ่นประทับใจและได้รับการกล่าวถึงบนสื่อข่าว Twitter, LINE และ Yahoo ชาวญี่ปุ่นต่างออกมาสนับสนุนและให้กำลังใจอิเคเอะกันอย่างล้นหลาม นอกไปจากนั้นนี่ยังถือเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปีในประเทศญี่ปุ่นที่นักกีฬาหญิงเดี่ยวได้ขึ้นข่าวหน้าแรกของหนังสือพิมพ์อีกด้วย
ริคาโกะ อิเคเอะ (Rikako Ikee) กลับคืนสู่การแข่งขันกีฬาว่ายน้ำอีกครั้งในการลงแข่งการว่ายแบบฟรีสไตล์ 50 เมตร ด้วยสถิติที่น่าทึ่ง เธอยังถูกรับเลือกให้เป็นผู้เข้าแข่งขันกีฬาว่ายน้ำของ 2020 Japan Swim —การแข่งขันว่ายน้ำโอลิมปิคญี่ปุ่นที่จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน
“#CHANGEDESTINY คือ หัวใจหลักของปรัชญาแห่งความงามของ SK-II และนี่คือสิ่งที่เราต้องการทำ เราอยู่ในยุคที่ผู้บริโภคคาดหวังมากกับแบรนด์มากกว่าแต่ก่อนในด้านที่สามารถส่งพบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ นอกเหนือไปจากการแสดงความเข้าอกเข้าใจ การให้กำลังใจ และสนับสนุนให้มีความหวัง เรายังมีส่วนร่วมต่อสังคมโดยการลงมือทำผ่านแคมเปญของเรา” ซานดีป เซท (Sandeep Seth) CEO ของ SK-II กล่าว “ปีนี้เราเริ่มต้นแคมเปญ #ChangeDestinyและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกีฬาโอลิมปิกในฐานะผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ เราจึงอยากเป็นตัวแทนเสียงในการสนับสนุนให้ผู้หญิงทุกคนลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงและได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำโดยที่ไม่ต้องกังวลถึงแรงกดดันจากรอบข้าง เพราะเราเชื่อว่า โชคชะตาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นสิ่งที่เราสามารถกำหนดได้ด้วยตัวเอง ”
นอกเหนือไปจากนั้น แบรนด์ SK-II ได้ผลักดัน แคมเปญ #ChangeDestiny โดยประกาศเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการและร่วมสนับสนุนกีฬาโอลิมปิค Olympic Games Tokyo 2020 ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างพื้นที่เพื่อสนับสนุนนักกีฬาหญิงและผู้หญิงทุกคนให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนและกำหนดโชคชะตาของตัวเอง รวมถึงข้ามผ่านแรงกดดันจากสังคมที่ตนได้รับผ่านการถ่ายทอดเรื่องราวจากภาพยนตร์สั้นสร้างแรงบันดาลใจจาก SK-II STUDIO
SK-II จะจัดตั้งกองทุน #CHANGEDESTINY โดยจะร่วมบริจาค 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อทุกๆ 1 ยอดวิวของแต่ละภาพยนตร์จาก SK-II STUDIO เพื่อสนับสนุนผู้หญิงที่ต้องการกำหนดโชคชะตาของตนเองเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ตามเป้าหมายของแบรนด์ในปีนี้ โดยเงินบริจาคให้กับกองทุน #CHANGEDESTINY จะถูกจำกัดไว้ที่ 5 แสนเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และองค์กรที่มีส่วนร่วมในการบริจาคให้กับกองทุนจะได้รับการประกาศในภายหลัง
เกี่ยวกับ SK-II
เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้วที่เอสเค-ทูได้เข้าถึงชีวิตของผู้หญิงทั่วโลกผ่านการมีผิวกระจ่างใสและชีวิตที่เราเป็นผู้กำหนดได้เอง เรื่องราวเบื้องหลังของเอสเค-ทูเริ่มต้นขึ้นหลังจากการสังเกตเห็นคนงานสูงวัยที่ทำงานในโรงบ่มสาเกในประเทศญี่ปุ่น มีใบหน้าที่มีริ้วรอย แต่กลับมีมือที่ดูอ่อนเยาว์และนุ่มอย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขาได้ค้นพบสาเหตุว่าเป็นเพราะมือของคนงานเหล่านั้นสัมผัสโดยตรงกับการหมักบ่มสาเกเป็นเวลาสม่ำเสมอ และได้นำมาศึกษาวิจัยเป็นเวลาหลายปีจนได้ส่วนผสมมหัศจรรย์อย่าง พิเทร่า™ ของเหลวชีวภาพทางธรรมชาติจากกระบวนการหมักบ่มยีสต์ นับแต่นั้นเป็นต้นมา พิเทร่า™ ก็กลายเป็นความลับพิเศษสู่ผิวกระจ่างใสสำหรับดาราทั่วโลกดังเช่น ทัง เหว่ย (Tang Wei), นี นี่ (Ni Ni), ชุน เชีย (Chun Xia), ฮารูกะ อายาเซะ (Haruka Ayase), คาซูมิ อาริมูระ (Kasumi Arimura), นาโอมิ วาตานาเบ้ (Naomi Watanabe) และ โคลอี เกรซ มอเรทซ์ (Chloe Grace Moretz) ติดตามทุก ๆ อัพเดทและข้อมูลของเอสเค-ทูได้ที่ https://www.sk-ii.co.th/
เกี่ยวกับ #CHANGEDESTINY
แคมเปญ #CHANGEDESTINY คือ หัวใจหลักของปรัชญาแห่งความงามของ SK-II ที่ต้องการจะทำให้เห็นว่า โชคชะตาไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นทางเดินที่เราสามารถเลือกได้เอง แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของผู้หญิงทั่วโลกผ่านแคมเปญ #CHANGEDESTINY ได้เผยให้เห็นถึงแรงกดดันและ “กรอบ” ที่ผู้หญิงถูกครอบไว้เพื่อความสมบูรณ์แบบในสายตาของผู้คนในสังคม โดยผลงานจากแคมเปญ #CHANGEDESTINY ที่กวาดรางวัลมาแล้ว ได้แก่ “Marriage Market Takeover” ในปี 2559 ซึ่งได้ประสบความสำเร็จในการถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับกระแส “ผู้หญิงที่เหลืออยู่” หรือ “ผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงาน” ของประเทศจีน นอกจากนี้ ผลงานชิ้นอื่นที่ได้รับรางวัลยังมี “The Expiry Date” ในปี 2560 “Meet Me Halfway” ในปี 2561 และ “Timelines” ในปี 2562 ซึ่งเป็นซีรีส์เชิงสารคดีที่ได้ร่วมมือกับผู้ประกาศข่าวชื่อดังอย่าง เคธี่ คูริก ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับแรงกดดันจากการแต่งงานและความคาดหวังของสังคมที่ผู้หญิงทั่วโลกต้องเผชิญ
[Advertorial]
ที่มา : https://www.sanook.com/women/174189/
ขอขอบคุณ : https://www.sanook.com/women/174189/