“ดอกไม้บำบัด” หนทางเยียวยาหัวใจ

10 ก.ย. 2563 12:04 น.

“ดอกไม้” คือหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่โลกได้รังสรรค์ขึ้นมา มิใช่เพียงเพื่อประดับโลกนี้ให้สวยงาม แต่เรายังใช้ “ดอกไม้” เป็นตัวแทนความรู้สึก เช่น ดอกกุหลาบแสดงถึงความรัก ดอกลิลลี่สีขาวแทนรักแรกพบ ดอก Forget me not บอกว่า…อย่าลืมฉันนะ หรือไม่เว้นแม้แต่ความเสียใจ ยังมีดอกไม้จันทน์เป็นสัญลักษณ์ของความสูญเสีย แต่สาวๆ Mirror ทราบมั้ยคะว่า ดอกไม้สามารถช่วยปลอบประโลมหัวใจของมนุษย์ เป็นเสมือนตัวแทนในการบ่งบอกความคิดต่างๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทำอาชีพอะไร อายุเท่าไหร่ หรือกระทั่งว่าคุณจะมีเพศสภาพอย่างไร เฉกเช่นเดียวกันกับเรื่องราวของ “บอล-นรภัทร ศักดิ์อาธรทรัพย์” บุคคลหนึ่งที่ใช้ “ดอกไม้” เป็นเครื่องมือช่วยเฉลยความเป็นเพศสภาพของตนเอง

พยายามปกปิดความลับนี้ไว้นานเท่าไหร่ ความเจ็บปวดก็เกิดขึ้นนานเท่านั้น

บอลคือศิลปินนักจัดดอกไม้ ผู้ถ่ายทอดเรื่องราวแรงบันดาลใจของความแตกต่างของมนุษย์ผ่านดอกไม้

“ผมเป็นเพศทางเลือก แต่ผมไม่กล้าที่จะบอกใคร และไม่มีโอกาสได้บอกเพื่อน ช่วงที่เรียนที่มหาวิทยาลัย เพื่อนๆ ชอบถามว่า…เป็นรึเปล่า? ผมก็ได้แต่บอกว่า…ไม่เป็น! ผมไม่ยอมรับ และโกหกอยู่บ่อยครั้ง คือมันมีความรู้สึกใจหายทุกครั้งที่ถูกโดนถาม จนครั้งหนึ่งเคยหลอกไปว่า มีแฟนเป็นผู้หญิง จนเวลาผ่านไปจำไม่ได้ สุดท้ายเขามีคำถามว่า แฟนเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งผมก็ลืมไปแล้ว มันตลกมากจริงๆ

ให้ “ดอกไม้” พูดแทน

การที่เราไม่ได้เป็นตัวเองอย่างเต็มที่ ทำให้เราไม่สามารถพูดทุกอย่างได้ บางครั้งเราเจอเหตุการณ์อะไรมา เราอยากบอกเล่าปรึกษาเพื่อน แต่เราก็ไม่สามารถทำได้ มันเป็นอะไรที่ทรมานมาก และสุดท้ายเมื่อถึงเวลามันก็ระเบิดออกมา

จนผมได้มีโอกาสทำงานศิลปะดอกไม้ชุดแรก ที่ผมเชื่อว่าสามารถบอกเล่าเรื่องราวบางอย่างออกมาได้ ซึ่งในครั้งแรกผมไม่กล้าที่จะบอกเกี่ยวกับ “เพศสภาพ” ไปตรงๆ 100% แต่ครั้งนั้นทำให้ผมรู้สึกเหมือนหาทางออกเจอ หลังจากนั้นผมจึงเริ่มต้นบอกเล่าเพศสภาพผม ผ่านงานศิลปะของดอกไม้แต่ละชุด ทีละนิด จนตัวเองเริ่มรู้สึกเข้มแข็งมากพอ ผมจึงบอกได้เต็มที่ว่า…ผมเป็นเพศอะไร จนถึงทุกวันนี้ ผมกล้าบอกกับทุกคนว่า ผมเป็นเพศทางเลือก โดยไม่สนใจแล้วว่าใครจะมองผมแบบไหน

“ชบา” ดอกไม้ 2 เพศที่ไม่มีใครเคยสังเกต

ผมค่อยๆ เฉลยเพศสภาพของตัวเองผ่านดอกไม้ โดยครั้งหนึ่งผมเคยถ่ายรูปดอกชบาในทั้งหมดจาก 50 เขตของกรุงเทพฯ แล้วผมก็ไปถามทุกคน ว่านี่คือดอกอะไร? ผมเชื่อว่าเกือบทุกคนรู้ว่าดอกไม้ชนิดนี้มีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียในดอกเดียวกัน แต่ไม่มีใครเรียกดอกชบาว่า ดอกตุ๊ด ดอกเกย์ ดอกกะเทยเลย แม้ดอกไม้ชนิดนี้จะเป็นดอกที่สมบูรณ์เพศ มีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียในดอกเดียวกัน ผมมองว่า…ในเมื่อคุณไม่เคยจำกัดดอกไม้ว่าเป็นเพศอะไร และทำไมเราต้องมานิยามความเป็น “เพศสภาพ” ของคนด้วย

หลังจากนั้นผมจึงใส่เรื่องเพศไปในการจัดดอกไม้ในทุกๆ งาน จนกลายเป็นว่าทุกงานจัดดอกไม้ของผมจะมีเรื่องเพศสภาพซ่อนไว้

“ดอกไม้” ก็คือดอกไม้!

อย่างผลงานล่าสุดที่ผมจัดในงานครบรอบ 2 ปี ปัญญ์ปุริเวลเนส ก็อยู่ภายใต้แรงบันดาลใจที่ว่า “ความงามที่แท้จริงที่ไร้ซึ่งขอบเขต” ในชื่อ BREAKING THE BOUNDARY ด้วยแนวคิดที่ว่าผมจึงอยากทำลายกฎเกณฑ์ธรรมชาติ ที่บอกว่าดอกไม้บางชนิด ไม่สามารถเบ่งบานร่วมกันได้ในพื้นที่เดียวกัน เช่น ดอกไฮเดนเยีย กับดอกเบญจมาศ ที่เป็นดอกไม้เขตร้อนและดอกไม้เขตหนาว ในผลงานครั้งนั้นผมจะบอกว่า…เราไม่จำเป็นต้องจำกัด ว่าดอกไม้อะไร มาจากไหน มีสีอะไร มีกลิ่นหรือไม่เลย

“ดอกไม้” บำบัด หนึ่งทางเลือกช่วยเยียวยาหัวใจ

ตอนเป็นเด็ก ผมไม่เคยได้เบ่งบานตามธรรมชาติ จริงๆ ผมชอบดอกไม้ตั้งแต่เด็กๆ รูปผมตอนเป็นเด็ก ผมจะชอบวิ่งไปจับดอกไม้ ดมดอกไม้ แม่ถ่ายเก็บไว้หมดเลย และจนมารู้ตัวเอง ก็เมื่อเริ่มเอาดอกไม้มาติดที่หัวจนฟู พอเริ่มโตขึ้นมาอีกหน่อย ผมอยากได้บาร์บี้ แม่ก็ซื้อมาให้ จนครอบครัวเริ่มสงสัย ผมก็บอกว่าผมไม่ได้ชอบบาร์บี้ แค่เล่นเฉยๆ แต่จริงๆ แล้วชอบมาก ซึ่งต้องปิดบังไว้ตลอดจนเรียนจบอายุ 20 กว่าๆ ผมรู้สึกว่า เราเสียเวลาใช้การใช้ชีวิตผม และเราก็ย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้ว

ผมคิดว่าถ้าเราสามารถเปลี่ยนแปลง Mindset ของคนในปัจจุบันได้ ในอนาคตเด็กรุ่นต่อไป ก็ไม่จำเป็นต้องปกปิดตัวเอง และต้องเป็นในแบบที่สังคมต้องการ ผมมองว่า ดอกไม้มีความพิเศษคือ ดอกไม้จะต้องเบ่งบานตามฤดูกาล เราไม่ควรไปเร่งให้มันบาน หรือทำให้มันตูม มันมีเวลาที่พร้อมจะบานในตัวของมันเองอยู่แล้ว ฉะนั้นควรให้ดอกไม้ได้เบ่งบานตามธรรมชาติจะดีกว่า เหมือนกับมนุษย์เรา ที่เราไม่ควรพยายามไปจำกัดชีวิตเขา เพศสภาพของเขา มันน่าจะดีกว่าสำหรับมนุษย์ทุกคน หรือดอกไม้ทุกดอก

โอกาสที่ได้ใช้ “ศิลปะแห่งดอกไม้”

ผมว่า…ผมโชคดีมากที่ได้เข้าใจ “ศิลปะของดอกไม้” และดีใจที่ได้ใช้ “ดอกไม้บำบัด” ช่วยคนอื่นๆ อีกมากมาย เพราะสำหรับบางคน มันเป็นอะไรที่ทรมานมาก ถ้าเขาต้องเก็บมันไว้ และไม่มีทางออก ซึ่งมนุษย์ทุกคน ก็ไม่สามารถที่จะบอกเรื่องราวได้ในสาธารณะ เพราะเรายังไม่ได้อยู่แค่ตัวคนเดียว และยังอยู่ในสังคม แค่ผมโดนตั้งคำถาม ผมยังลำบากใจที่จะตอบเลย ส่วนเด็กที่โดนล้อ ก็คงต้องรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก ผมอยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ด้วยครับ

ผมขอนิยามตัวเองเป็นอะไรก็ได้ที่รัก “ดอกไม้” และงาน “ศิลปะ” และชอบใช้ดอกไม้ถ่ายทอดความเป็นตัวเองผ่านงานศิลปะ

“ดอกไม้” คุณค่าแห่งตัวตน

หากเปรียบตัวเองเป็นดอกไม้ ผมเลือกจะเป็นดอกพุด ที่สวยแต่บอบบาง และผมเป็นคนเข้มแข็งแต่ก็อ่อนแอด้วย ผมใช้ดอกไม้บำบัดความรู้สึกมาโดยตลอด งานศิลปะเป็นอะไรที่บำบัดตัวเอง ผมมองว่า…ตัวเองไม่คุณค่าอะไร แต่วันหนึ่งที่ “ดอกไม้บำบัด” หรือได้ใช้ศิลปะแห่งการจัดดอกไม้ จะสามารถบ่งบอกความเป็นตัวตนของผมได้ ผมรู้สึกมีคุณค่าจากการทำงานศิลปะขึ้นมาทันที เพราะมันไม่ได้จบแค่เรา หลายคนทรมานเหมือนผม แต่ผมก็ใช้ดอกไม้เป็นตัวแทนของความรู้สึก ก็อยากให้ทุกคนลองทำตามดู ไม่ว่าจะดอกไม้ หรือศิลปะ เราก็แค่หามันให้เจอ ยังมีอีกหลายอย่างที่เราควรค้นหามัน

ตลอดชีวิตผมก็จัดดอกไม้มาโดยตลอด ผมคิดว่า…ดอกไม้เป็นอะไรที่รู้จักเรามากที่สุด และดอกไม้ก็เป็นสิ่งที่ผมไว้ใจมากที่สุดด้วย

ทุกคนคือ “ดอกไม้” สุดพิเศษ

สุดท้ายผมอยากบอกกับทุกคนว่า รักตัวเองให้มากที่สุด ถ้าวันไหนคุณเป็นทุกข์ที่สุด ก็ขอให้นึกถึงวันที่มีความสุขมากที่สุด แล้วดึงตัวเองกลับมา ทุกคนมีคุณค่าในตัวเองที่สุด อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะทุกคนคือคนพิเศษ เหมือนดอกไม้ที่มีความแตกต่างและหลากหลายชนิด เมื่อมาเบ่งบานรวมกัน ทุกดอกก็สวยงาม ทุกดอกก็ดูพิเศษ เหมือนทุกคนก็คือ “คนพิเศษ” และเป็น “ดอกไม้สุดพิเศษ” เช่นกัน

ดูเนื้อหาต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/women/beauty/health/1917049
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/women/beauty/health/1917049