“ดอกไม้” สัญลักษณ์แห่งความสวยงาม ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ล้วนแต่หลงใหลในดอกไม้ทั้งสิ้น ยิ่งแตกต่างกันด้วยสีสันและกลิ่นหอม ก็ยิ่งทำให้ดอกไม้แต่ละชนิดล้วนมีเสน่ห์ในตัวเองอย่างมาก ไม่แปลกที่สถานที่ต่างๆ จะถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ อย่างสปา โรงแรม หรือสถานเสริมความงามต่างๆ ก็ล้วนให้ความสวยงามและกลิ่นของดอกไม้ มาบำบัดสุขภาพใจให้กับทุกคน ล่าสุดในงานครอบรอบ 2 ปี ปัญญ์ปุริเวลเนส ก็ได้เนรมิตศิลปะดอกไม้จากศิลปินไทยภายใต้แรงบันดาลใจ “ความงามที่แท้จริงที่ไร้ซึ่งขอบเขต” ในชื่อ BREAKING THE BOUNDARY โดย “นรภัทร ศักดิ์อาธรทรัพย์” ศิลปินนักจัดดอกไม้ ผู้ถ่ายทอดเรื่องราวแรงบันดาลใจของความแตกต่างของมนุษย์ทั้งเชื้อชาติ รูปลักษณ์ อัตลักษณ์ ที่ถูกแบ่งแยกด้วยกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยใช้ดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ เป็นตัวแทนในการสร้างสรรค์ผลงานครั้งนี้ได้อย่างสวยงาม โดยได้ให้ข้อมูลกับ MIRROR ไว้อย่างน่าสนใจ ถึงเรื่องราวของ “ดอกไม้” ตัวแทนแห่งความรู้สึกของใครหลายคน ไว้ว่า…

“ดอกไม้ทุกชนิดมีความพิเศษ อยู่ที่ตัวเราจะมองเขาอย่างไร

ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้อะไร ก็สามารถรักษาสุขภาพใจเราได้

ผมมองว่าทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นดอกอะไร ก็สามารถทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นได้

แค่เราเข้าใกล้ดอกไม้นั้นๆ ไม่ว่าจะนำมาใส่แจกัน ดมกลิ่น ถ่ายรูป หรือจะซื้อมาปลูก

ทุกอย่างก็คือการบำบัดความรู้สึกทางใจของเราทั้งสิ้น”

วันที่ท้อแท้ สิ้นหวัง และเศร้า ผมมองเป็น 2 ทาง บางคนชอบดื่มด่ำกับความเศร้า ผมจะเลือก “ดอกไม้แห้ง” เอาความแห้งของดอกไม้มาจัดให้สวยงาม และมองหาความงามจากความเศร้าผ่านดอกไม้แห้งๆ เหล่านั้น แต่อีกทางหนึ่งคือ เราอยากได้ความสุขมาเติมแต่งในวันที่เราเศร้า ก็ใช้ “ดอกไม้สด” ซึ่งจะเป็นดอกอะไรก็ได้ ที่คุณเห็นแล้วมีความสุข ดมกลิ่นแล้วมีความสุข ก็เอามันมาทดแทนสิ่งที่คุณขาดแคลนไป

ผมเชื่อว่า….ไม่ว่าจะความรู้สึกอะไรก็แล้วแต่ ดอกไม้มันมีความงามของมันอยู่แล้ว อย่าง “ดอกไม้แห้ง” มันอาจจะไม่สวย แต่ถ้าเราจัดมันดีๆ มันก็สวยงามได้ ความงามจากความเศร้า ก็อาจเป็นคำตอบ เพราะทุกอย่างมันมีความงามของตัวเองแล้ว อยู่ที่มุมมองของเรามากกว่า 

วันที่มีความสุข แฮปปี้กับความรัก เราจะจัดดอกไม้อะไร ซึ่งจริงๆ แล้วผมเป็นคนที่ไม่หลงระเริงกับความสุขเลย เวลาที่มีความสุข ผมจะรู้สึกแป๊บเดียว เพราะคิดว่ามันมาแล้วก็ไป ความสุขไม่ได้จีรังยั่งยืน แต่ “ดอกลิลลี่” ก็เป็นตัวแทนความรัก ผมเลือกจัดลิลลี่แทนความรักที่ผมมีต่อแม่ เพราะดอกลิลลี่มันมีเวลาของมัน ตั้งแต่ตอนตูมจนเริ่มผลิบาน มันคือตัวแทนความรู้สึกของความรักได้

ผมใช้ “ดอกพุด” เพราะดอกพุดเล่าทุกอย่างที่เป็นผม แค่ผมได้กลิ่น ผมก็มีพลังแล้ว ทีนี้ต้องกลับไปถามว่า เราชอบดอกอะไร? แล้วเราก็ใช้ดอกไม้ชนิดนั้นแทนแรงบันดาลใจของเรา ค้นหาตัวตน โดยใช้ดอกไม้เป็นแรงใจได้เช่นกัน ไม่ใช่ดอกไม้ที่แพง ที่หรูหรา บางทีแค่ดอกเฟื่องฟ้าก็สวยงามและทำให้เรามีแรงบันดาลใจและความสุขได้

“ดอกบัว” ในโคลนตม เป็นดอกไม้ที่ผมเลือก เพราะผมเคารพความค่อยๆ เจริญเติบโตของดอกไม้ชนิดนี้มากๆ วันหนึ่งที่มันผลิบานแบบไร้ซึ่งโคลนตมติดที่ดอก มันกลายเป็นดอกไม้ที่สวยงามมาก แม้มันจะอยู่ในบ่อที่มีโคลนตม แต่มันก็สวยงาม แค่ต้องใช้เวลาเท่านั้นเอง ดอกบัวจึงปลอบประโลมจิตใจวันที่รู้สึกสิ้นหวังได้ อย่างคนที่ทำธุรกิจแล้วเจอปัญหาโควิด-19 ดอกบัวจะเป็นตัวแทนที่ดี วันที่สดใส และวันที่ทุกอย่างจะคลี่คลาย ใช้ดอกบัวมาให้กำลังใจตัวเอง

ความทรงจำ…วันที่มีความสุขที่สุด บางครั้งอาจไม่ต้องไปหาซื้อดอกไม้อะไรเลย แค่ “ดอกหญ้า” ข้างบ้าน ที่ล้วนมีแต่ความทรงจำในวันเด็ก แค่นั้นก็ทำให้เรามีความสุขแล้ว หรือจะใช้ดอก “เฟื่องฟ้า” ที่ในอดีตบ้านไหนๆ ก็ต้องมี มันก็สามารถพาเราย้อนวันวานกลับไปเก็บความสุขในวันนั้นได้เช่นกัน

ฟังแล้วอยากลุกไปปากคลองตลาดเลยจ้า ไปค่ะสาวๆ ไปจัดหา “ดอกไม้” มาเป็นตัวแทนแห่งความรู้สึกของเรากัน ไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่ยังคงไปด้วยความหมายเสมอ ไว้วันหน้าเราจะพาทุกคนไปรู้สึกดอกไม้ในมุมอื่นกันบ้าง คอยติดตามได้ ที่นี่ นะคะ 

อ่านบทความเกี่ยวกับ “สุขภาพ” เพิ่มเติมได้ที่นี่.