เทรนด์ฉีด “โบท็อกซ์” 2020

17 ส.ค. 2563 16:14 น.

การฉีด “โบท็อกซ์” คือหนึ่งทางเลือกในการเติมเต็มความสวยความงามให้แก่ใบหน้า เพราะความสวยงามคือหนึ่งในองค์ประกอบหลักของใบหน้าผู้หญิง ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การดูแลผิว หรือการใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์เท่านั้น ดังนั้นนวัตกรรมต่างๆ ที่ช่วยย่นระยะเวลาให้ใบหน้าดูดีขึ้นได้โดยไม่ต้องพึ่งพาศัลยกรรม อย่างโบท็อกซ์ หรือการฉีด Botulinum Toxin Type A (โบทูลินั่ม ท็อกซิน ไทป์ เอ) ซึ่งเป็นนวัตกรรมการลดเลือนริ้วรอย จึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก วันนี้เราจะพาทุกคนไปอัปเดตเทคนิคและเทรนด์การเสริมความงามด้วยการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน หรือโบท็อกซ์ ปี 2020 ภายในงาน Celebration Night to Beauty In All Forms ซึ่งจัดโดยบริษัท กัลเดอร์มา ประเทศไทย งานนี้ ดร.ลี ยง ซอบ ศัลยแพทย์ความงามชื่อดังจากประเทศเกาหลี ได้ให้ข้อมูลไว้อย่างน่าสนใจ ไปฟังพร้อมๆ กัน

อัปเดตเทรนด์การเสริมความงามด้วย “โบท็อกซ์”

ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ขยับใบหน้า แสดงสีหน้าออกทางอารมณ์ได้

การเสริมความงามโดยการใช้สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน หรือการฉีด “โบท็อกซ์” ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชีย มีคนไข้ที่เข้ารับบริการหรือรักษาผิวพรรณด้วยการฉีดโบฯ เป็นอันดับต้นๆ โดยจุดประสงค์เพื่อความดูดีของตัวเอง ช่วยสร้างความมั่นใจและสร้างโอกาสในชีวิต โดยนวัตกรรมสารลดเลือนริ้วรอยนี้ ได้มีการพัฒนาอยู่ต่อเนื่อง โดยแนวโน้มในปัจจุบัน คือจะต้องให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยคนไข้ยังสามารถขยับใบหน้า และแสดงสีหน้าออกทางอารมณ์ได้ตามปกติ ผลลัพธ์ยังต้องอยู่ได้นาน และได้รับประโยชน์ในเรื่องของการปรับรูปหน้า นอกเหนือจากเรื่องลดเลือนริ้วรอยเพียงอย่างเดียว

หน้าเล็ก “หน้ารูปหัวใจ” เทรนด์รูปหน้ามาแรงของผู้หญิงเอเชีย

ดร.ลี กล่าวว่า “เทรนด์ความงามของผู้หญิงเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นไทย จีน เกาหลี ยังคงต้องการมีรูปหน้าที่เล็ก โดยรูปหน้ายอดนิยม คือ “หน้ารูปหัวใจ” และใบหน้า “รูปไข่” ในขณะที่ลักษณะโครงสร้างรูปหน้าของคนเอเชียคือ หน้าแบน ดังนั้นเทคนิคในการปรับรูปหน้า ต้องโฟกัสการปรับบริเวณ ส่วนกลางของใบหน้า คือ แก้มและจมูก ให้มีมิติพุ่งออกมา โดยทั่วไปคนไทยมักจะมีความกังวลเกี่ยวกับปีกจมูก ส่วนคนจีนและเกาหลีจะมีปัญหาเรื่องกระดูกขากรรไกร ดังนั้นการออกแบบใบหน้าให้กับแต่ละคน สิ่งที่แพทย์ต้องคำนึงถึงคือ ทำอย่างไรให้ใบหน้าที่มีโครงสร้างต่างกัน ออกมาได้รูปหน้าที่เล็ก ได้สัดส่วน และเสริมความงามในแบบของแต่ละคน เพราะลักษณะใบหน้าที่แตกต่างกัน ต้องมีเทคนิคในการแก้ไขและปรับรูปหน้าที่แตกต่างกันด้วย เพื่อความสวยสมบูรณ์แบบ และส่งเสริมเอกลักษณ์ให้กับใบหน้าแต่ละคน

การฉีดแบบเก่า vs แบบใหม่ 

ดร.ลี นับเป็นศัลยแพทย์คนแรก ที่คิดค้นเทคนิคการฉีดโบท็อกซ์ที่ชั้นผิวหนังแท้ เรียกว่าเทคนิค Dermo Lifting ด้วยสารลดเลือนริ้วรอย ABO Active 3D จากประเทศอังกฤษในสัดส่วนเฉพาะ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยได้เล่าว่า เทคโนโลยีการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เพื่อเสริมความงามได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จากสมัยก่อนคือการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ปัจจุบันได้พัฒนามาเป็นเทคนิคการฉีดที่ชั้นผิวหนัง ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือหน้าไม่ตึงแข็ง ซึ่งเทคนิคนี้ทำให้สาวๆ จะสามารถขยับใบหน้า และแสดงสีหน้าทางอารมณ์ได้อย่างปกติ ที่สำคัญคือเห็นผลลัพธ์ได้ทันที เป็นธรรมชาติ และไม่ต้องรอนานเป็นสัปดาห์เหมือนกับการฉีดโบฯ ด้วยเทคนิคเดิมๆ

เทคนิคการฉีด “โบท็อกซ์” ปี 2020

เทรนด์เรื่องการเสริมความงามและการดูแลตัวเอง กลายเป็นสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องคอยอัปเดต เพื่อให้ตัวเองอยู่ในกระแสและดูแลตัวเอง รวมถึงเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเข้ารับบริการเสริมงามของตัวเอง ซึ่ง ดร.ลี ได้พูดถึงเทคนิคการฉีดโบท็อกซ์ที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นในปี 2020 และในอนาคตข้างหน้า ว่า เทคนิคการฉีดสารลดเลือนริ้วรอย หรือการปรับรูปหน้า หรือการฉีดโบท็อกซ์ ในปี 2020 นั้น ต้องไม่เพียงแค่ลดเลือนริ้วรอย แต่ต้องยกกระชับปรับรูปหน้า เห็นผลทันทีอย่างเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน และมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้น ในการตัดสินใจเข้ารับบริการเสริมความงามใดๆ ต้องพิจารณาถึง 3 ปัจจัยสำคัญ คือ 1. คลินิกที่เข้ารับบริการต้องมีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ 2. แพทย์ต้องมีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ตลอดจนผ่านการเทรนอย่างต่อเนื่อง 3. ใช้ตัวยาที่ถูกต้อง เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน โบฯ ในปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์ และแต่ละแบรนด์ก็ให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีผลวิจัยรับรองในประสิทธิภาพและความปลอดภัย ตลอดจนได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ความงามทั่วโลกด้วย

เอาละค่ะสาวๆ รู้แบบนี้แล้ว ต้องพิจารณาให้ดีนะคะ ใช่ว่าโปรโมชั่นถูกๆ จะมากับความสวยความงามเสมอไป เมื่อตัดสินใจได้อย่างรอบคอบแล้ว ก็จงดูว่า เทรนด์ฉีด “โบท็อกซ์” 2020 จะช่วยให้เรามีรูปหน้าสวยงามได้อย่างไร ศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจนะคะ หรือจะอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ฟิลเลอร์” VS “ไขมัน” ฉีดอะไรดีกว่ากัน? หรือไปรู้ลึกเกี่ยวกับ “ไฮยาลูโรนิค” ความลับแห่งความงาม.

ดูเนื้อหาต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/women/beauty/health/1907489
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/women/beauty/health/1907489