“พยาธิ” ภัยเงียบที่ผู้หญิงพึงระวัง

9 ส.ค. 2563 14:14 น.

“โรคพยาธิในช่องคลอด” โรคร้ายสำหรับผู้หญิงที่เกิดจาก “พยาธิ” MIRROR เชื่อว่า เมื่อหลายคนได้ยินคำนี้ อาจรู้สึกว่ามันน่ากลัวเสียเหลือเกิน แต่ Lady MIRROR รู้หรือไม่ โรคนี้ถือเป็นภัยเงียบที่ผู้หญิงทุกคนพึงไม่ระวัง ไม่ใช่แต่มานั่งกลัวว่า ชื่อโรคร้ายขนาดนี้ เราไม่มีทางเป็นเด็ดขาด นั่นคือความคิดที่ผิดๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา MIRROR จึงพยายามหาข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับ “สุขภาพ” ของผู้หญิงมาฝากอยู่เสมอ เพราะนั่นจะทำให้สาวๆ มีความรู้เพิ่มขึ้น และยังช่วยให้สาวๆ ได้รู้จักและป้องกันตัวเอง ไม่ว่าเรื่องนั้นหรือโรคนั้นจะเป็นเรื่องเล็กหรือโรคร้ายก็ตามที เราจะเคียงข้างสาวๆ ที่รักสุขภาพเสมอ วันนี้ก็เช่นกัน กับ “โรคพยาธิในช่องคลอด” ที่จะบอกว่ามันไม่ไกลตัวเลยจ้า ซึ่ง ผศ.พญ.อรวิน วัลลิภากร สาขาวิชาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้ข้อมูลไว้อย่างสนใจ ไปดูพร้อมๆ กันค่ะ

รู้ลึก “โรคพยาธิในช่องคลอด” ภัยเงียบที่ผู้หญิงพึงระวัง

“โรคพยาธิในช่องคลอด” คือ?

สาวๆ รู้หรือไม่คะว่า “โรคพยาธิในช่องคลอด” หรือ Trichomoniasis คือโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง เกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัวที่มีชื่อว่า Trichomonas vaginalis พบได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย แต่จะพบได้ใน “เพศหญิง” มากกว่า ซึ่งตัวพยาธินั้นมีขนาดเล็กมาก ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ต้องดูผ่านกล้องจุลทรรศน์เท่านั้น ความน่ากลัวของโรคนี้คือ หากเป็นแล้วจะพบผู้ป่วยที่แสดงอาการเพียง 20-30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทำให้หลายคนไม่รู้ตัว และแพร่กระจายเชื้อไปสู่คู่นอนได้

อาการของ “โรคพยาธิในช่องคลอด”

หากสาวๆ เกิดเป็น “โรคพยาธิในช่องคลอด” ขึ้นมา จะพบอาการคือ มีตกขาวมากผิดปกติ ตกขาวเป็นฟอง และอาจส่งกลิ่นเหม็นคาวปลา และมีเลือดไหลออกจากช่องคลอด นอกจากนี้จะมีอาการบวม แดง คัน หรือรู้สึกแสบบริเวณอวัยวะเพศ ปวดปัสสาวะบ่อย และเจ็บปวดขณะปัสสาวะ หรือขณะมีเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้หาสาวๆ เป็นแล้วปล่อยทิ้งไว้ ไม่รีบรักษา จะลุกลามไปถึงท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะ ทำให้อักเสบได้ เนื่องจากท่อปัสสาวะและช่องคลอดอยู่ใกล้กัน จึงสามารถติดเชื้อได้ง่าย ในระยะยาวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยง “โรคมะเร็งปากมดลูก” และส่งผลให้มีบุตรยากในอนาคต

“เชื้อราในช่องคลอด” VS “พยาธิในช่องคลอด” ต่างกันอย่างไร?

ความแตกต่างของ “เชื้อราในช่องคลอด” และ “พยาธิในช่องคลอด” สามารถแยกได้จากลักษณะอาการที่เด่นๆ เช่น เชื้อราในช่องคลอดมักจะก่อให้เกิดอาการคันมากกว่า และตกขาวจะมีลักษณะเหมือนแป้งเปียก แต่พยาธิในช่องคลอดจะก่อให้เกิดการระคายเคืองและมีอาการแสบบริเวณอวัยวะเพศเมื่อปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์

ป้องกัน “พยาธิในช่องคลอด”

“โรคพยาธิในช่องคลอด” สามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้นโรคนี้จึงสามารถป้องกันได้ด้วยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เช่นเดียวกับการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ และไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย นอกจากนี้หากพบว่ามีอาการตกขาวผิดปกติ ให้สาวๆ รีบไปพบแพทย์ทันทีนะคะ

รักษา “พยาธิในช่องคลอด” ด้วยการกินยา

“โรคพยาธิในช่องคลอด” เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยการรับประทานยาตามแพทย์สั่งต่อเนื่อง 7-10 วัน แต่ถึงแม้จะรักษาจนหายขาดแล้วก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ เนื่องจากกลับไปมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนเดิมที่ติดเชื้อ ดังนั้นในทางการแพทย์จะแนะนำให้ผู้ที่สงสัยว่าจะเป็นโรคพยาธิในช่องคลอดและคู่นอน มารับการตรวจและรักษาไปพร้อมๆ กัน เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำใหม่นั่นเองค่ะ

เห็นมั้ยคะสาวๆ ว่า “โรคพยาธิในช่องคลอด” คือโรคร้ายและภัยเงียบด้าน “สุขภาพ” ของผู้หญิงที่อยู่รอบตัวเราจริงๆ MIRROR อยากให้ทุกคนเปิดใจ เรียนรู้และศึกษาข้อมูลดีๆ ไปพร้อมกัน ไม่ใช่แต่จะสวยที่รูปร่างหน้าตาอย่างเดียวนะคะ ความสวยจากภายใน สาวๆ ก็ต้องดูแลเช่นกัน เพราะสุขภาพหาซื้อไม่ได้ มันต้องเริ่มที่การดูแลตัวเองจริงๆ แล้วสัปดาห์หน้าพบกันใหม่นะคะ ว่าเราจะมีข้อมูลดีๆ อะไรมาฝากติดตามได้ที่นี่ “สุขภาพ”

ดูเนื้อหาต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/women/beauty/health/1905559
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/women/beauty/health/1905559