เช็กลิสต์ “สกินแคร์” หมดอายุ

3 ส.ค. 2563 14:00 น.

“สกินแคร์” ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีวันหมดอายุได้เช่นกัน บางชนิดอาจมีระบุวันหมดอายุไว้ชัดเจนบนฉลาก แต่ก็มีอีกหลายๆ อย่างที่ไม่ได้ระบุว่าใช้ได้ถึงเมื่อไหร่ และการใช้สกินแคร์ที่หมดอายุก็อาจส่งผลเสียต่อผิวหน้าของเราได้มากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นสิว, การระคายเคือง หรืออาการแพ้ต่างๆ เพราะฉะนั้นเราควรใส่ใจกับวันหมดอายุของสกินแคร์ไม่ต่างกับผลิตภัณฑ์ด้านอาหารและเครื่องสำอาง MIRROR มีอายุการใช้งานของสกินแคร์ 5 ประเภทมาฝากกัน Lady MIRROR จะได้สวยอย่างปลอดภัยไร้กังวล (คุณใช้เครื่องสำอาง “หมดอายุ” อยู่รึเปล่า?)

1. คลีนเซอร์

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสามารถเก็บไว้ใช้ได้นานถึง 2 ปี ยกเว้นคลีนเซอร์บางชนิดที่อาจระบุวันหมดอายุไว้บนฉลากเพียง 1 ปีหลังจากการเปิดใช้ครั้งแรก หรือจะลองสังเกตจากเนื้อสัมผัสก็ได้ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มาในรูปแบบโฟม, ออยล์หรือเจลล้างหน้า เวลาที่หมดอายุมักจะแยกชั้นหรือมีกลิ่นและสีที่เปลี่ยนไปจากเดิม (“คลีนเซอร์” ล้างหน้าสูตรอ่อนโยนสำหรับ “ผิวแพ้ง่าย”)

2. ผลิตภัณฑ์มาสก์หน้า

อายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์มาสก์หน้าอยู่ระหว่าง 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับส่วนผสมหลักๆ ที่ใช้และรูปแบบของเนื้อสัมผัส เช่น Clay Mask อาจมีอายุใช้งานน้อยกว่ามาสก์ชนิดอื่นเพราะอาจแห้งและจับตัวเป็นก้อน หรือมาสก์ที่มีส่วนผสมที่ไม่เสถียรอย่างวิตามินซีและอีอาจค่อยๆ ลดคุณภาพลงและเสื่อมประสิทธิภาพไปในที่สุด ในทางตรงกันข้ามมาสก์ที่มีส่วนผสมจากชาร์โคลจะมีอายุนานกว่ามาสก์ชนิดอื่นๆ เพียงคุณสาวๆ ปิดฝาให้สนิททุกครั้งหลังใช้ ทริกง่ายๆ ในการยืดอายุมาสก์แบบกระปุกให้ใช้ได้นานยิ่งขึ้นคือการใช้ไม้พายเล็กๆ ตักแบ่งออกมาในปริมาณที่พอใช้ในแต่ละครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้นิ้วที่อาจมีสิ่งสกปรกหรือแบคทีเรียไปสัมผัสกับเนื้อผลิตภัณฑ์ในกระปุกโดยตรง ส่วน Lady MIRROR คนไหนที่ชอบใช้แผ่นมาสก์หน้า การแช่ไว้ในตู้เย็นจะช่วยให้คุณเก็บไว้ใช้ได้นานยิ่งขึ้น (5 “สูตรมาส์กหน้า” ก่อนนอน ในงบ 100 บาท)

3. โทนเนอร์

โทนเนอร์ที่ถูกเปิดใช้แล้วมีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ยน้อยกว่าสกินแคร์ชนิดอื่นๆ MIRROR แนะนำว่าไม่ควรเก็บไว้เกิน 1 ปีหลังจากใช้ครั้งแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่าง AHAs หรือ BHAs เพราะหากเก็บไว้นานเกินไป อาจส่งผลให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองกว่าปกติ การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่ปลอดภัยคือไม่ควรมีค่า pH Balance ต่ำกว่า 3.5 เพื่อหลีกเลี่ยงอาการระคายเคืองของผิวเมื่อโดนแสงแดด การเก็บโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ AHAs หรือ BHAs ไว้นานกว่า 1 ปีจะทำให้ค่า pH Balance เปลี่ยนและอาจจะเป็นอันตรายต่อผิวหน้าได้ (ฟื้นฟูกู้ “ผิวสวย” ด้วย “โทนเนอร์”)

4. เซรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์

หลังจากเปิดใช้แล้ว คุณสาวๆ ไม่ควรเก็บผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 2 ชนิดนี้ไว้เกิน 1 ปี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสูตรและส่วนผสมของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ด้วยนะ เซรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนประกอบของ Essential Oil อาจมีอายุน้อยกว่า 1 ปี เพราะประสิทธิภาพในการบำรุงผิวของน้ำมันสกัดจะค่อยๆ เสื่อมสภาพลงตามระยะเวลาที่เปิดใช้ ยิ่งถ้าเก็บรักษาไม่ดี โดนแสงแดดหรือความร้อน ก็จะยิ่งเสื่อมคุณภาพเร็วขึ้นไปอีก MIRROR มีหลักการง่ายๆ ในการสังเกตว่าเซรั่มและครีมบำรุงผิวของคุณหมดอายุแล้วหรือยังโดยการเปรียบเทียบสภาพผิวหน้าของตัวเองว่ายังตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์ได้ดีเหมือนในช่วงแรกๆ ที่คุณเริ่มใช้หรือไม่ เพราะสกินแคร์ที่หมดอายุมักไม่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เหมือนเคย (9 ครีมทาหน้า เพื่อผิวอิ่มเด้งฟู)

5. ครีมกันแดด

“ครีมกันแดด” เป็นสกินแคร์ที่มีวันหมดอายุระบุไว้บนฉลากเสมอ และเราก็ไม่ควรใช้เกินวันที่ระบุนั้นโดยเด็ดขาด เพราะครีมกันแดดทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องผิวของเราจากรังสียูวีที่ร้ายกาจถึงขั้นก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้เลยทีเดียว รู้แบบนี้แล้วคุณสาวๆ ก็อย่าเสียดายหากใช้ครีมกันแดดไม่หมดหลอดก่อนวันหมดอายุ เพราะ MIRROR ว่ามันจะเป็นการได้ไม่คุ้มเสียแน่ๆ (รวบตึง “ครีมกันแดด” ที่ดีที่สุด)

MIRROR Tips

– เก็บสกินแคร์ในอุณหภูมิห้องที่ไม่สูงจนเกินไป และไม่ควรให้โดนแสงแดดหรือความร้อนโดยเด็ดขาด 

– หากคุณแช่สกินแคร์ไว้ในตู้เย็น ก็ควรแช่ไว้ตลอด ไม่ควรหยิบออกมาวางทิ้งไว้ข้างนอกนานๆ แล้วเอากลับเข้าไปแช่ใหม่ เพราะอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไปมาอาจทำให้สกินแคร์นั้นเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

– เขียนวันเดือนปีที่คุณเปิดใช้ครั้งแรกไว้บนฉลากของผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยเตือนความจำว่าคุณใช้สกินแคร์นั้นๆ มานานแค่ไหนแล้ว

by วัชรพงษ์ กาญจนกฤต (ฮ้อ)

หนุ่มหน้าตี๋ ดีกรีช่างแต่งหน้าทำผมจากออสเตรเลีย พร้อมตำแหน่งช่างภาพสายแฟชั่นอีกหนึ่งความสามารถ

ดูเนื้อหาต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/women/beauty/1902413
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/women/beauty/1902413