เมื่อ Work From Home แบบนี้ Lady MIRROR หลายคน ต้องเปลี่ยนตัวเองจากสาวออฟฟิศมาเป็น เชฟมืออาชีพ เพราะต้องทำอาหารรับประทานเอง ครั้นจะให้สั่งอาหารนอกบ้านมารับประทานทุกวัน ก็คงจะเบื่อมิใช่น้อย แต่จะทำอะไรทานทุกวันนี่สิ ปัญหาใหญ่ของใครหลายคน เพราะนึกไม่ออกว่าจะทานอะไรดี วันนี้ MIRROR จึงมี “เมนูอาหาร” มาเสิร์ฟ จากกูรูระดับเชฟมือทองทั้งสิ้น เอาเป็นว่า แต่ละเมนูทำไม่ยากเลย เพราะเราบอกวัตถุดิบและวิธีทำให้เสร็จสรรพ อยากให้สาวๆ ไปรังสรรค์กันดูนะคะ รับรอง Work From Home นี้ ไม่น่าเบื่ออย่างแน่นอน
เปิดสูตร 3 “เมนูอาหาร” เมื่อ Work From Home ทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน
“ข้าวคลุกกะปิ” กินฟินครบคุณค่าทางอาหาร
เริ่มกันที่ “เมนูอาหาร” แรก เมนู “ข้าวคลุกกะปิ” อาหารไทยที่หลายคนมองว่ายุ่งยาก เพราะส่วนผสมค่อนข้างมาก แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเรารู้วิธีและขั้นตอนการทำ จะบอกว่าแสนง่ายเหลือเกิน แถมยังเป็นเมนูสุขภาพด้วย เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ โดยเชฟระดับโรงแรมชั้นนำ แคนทารี เฮ้าส์ กรุงเทพฯ มาเผยส่วนผสมและวีธีการทำให้เราด้วย ไปจัดเตรียมและปรุงเมนู ข้าวคลุกกะปิ ไปพร้อมกันเลยจ้า
– หอมแดงซอย
– ข้าวหุงสุก
– กะปิอย่างดี
– กุ้งแห้งทอด
– ไข่เจียวหั่นฝอย
– ถั่วฝักยาวซอย
– พริกขี้หนูซอย
– มะม่วงเปรี้ยวดิบสับเส้นยาว
– แตงกวาหั่น
– มะนาว
– ผักชี (ตกแต่ง)
– หมูสามชั้น
– น้ำมันพืช
– น้ำปลา
– น้ำตาลปี๊บ
– ซีอิ๊วดำ
– น้ำเปล่า
– ซอสหอยนางรม
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใส่หมูสามชั้นลงไปผัด
2. ปรุงรส ด้วยซอสหอยนางรม น้ำปลา และซีอิ๊วดำ ผัดให้เข้ากัน แล้วใส่น้ำให้ท่วมหมูสามชั้นตั้งไฟ
3. เคี่ยวไว้ 10 นาที จนหมูสามชั้นนุ่ม เมื่อเคี่ยวจนนุ่มแล้ว ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปคนให้ละลายเข้ากันดี แล้วตักขึ้นพักไว้
1. ตั้งน้ำมันให้ร้อน ใส่กะปิลงไปผัดให้หอม ใส่น้ำ ผัดให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
2. ใส่ข้าวลงผัด ใช้ไฟแรงผัดให้เข้ากัน
3. ตักข้าวขึ้นใส่จาน จัดเสิร์ฟกับหอมแดงซอย กุ้งแห้งทอด ไข่เจียวหั่นฝอย ถั่วฝักยาวซอย พริกขี้หนูซอย มะม่วงเปรี้ยวดิบสับเส้นยาว แตงกวา มะนาว และหมูหวานที่ทำเตรียมไว้ พร้อมเสิร์ฟความอร่อย
ต่อกันที่เมนูที่ 2 กับเมนู “หมูสะเต๊ะไม่ต้องเต๊ะ” จากครัว SeaBistro หรือ “ครัวฉุกละหุก” แบบเฉพาะกิจโดยครูโป้ Certified Le Cordon Bleu แห่ง Sea Mastermind ที่ขอวางฟินดำน้ำชั่วคราว ในวันที่ทะเลปิดลงน้ำไม่ได้ มาเข้าครัวจับมีดจับตะหลิว แถมมาเปิดสูตรอาหาร ชวนสาวๆ มาลองทำอาหารต้านโควิด-19 แนวฟิวชั่นง่ายๆ ที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน และยังเต็มเปี่ยมไปด้วยสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมาย โดยครูโป้บอกว่า “หมูสะเต๊ะไม่ต้องเต๊ะ” สูตรพิเศษนี้ ไม่ต้องมีน้ำจิ้มสำหรับจิ้มหมูเลย เพราะรสชาติหมูอร่อยครบรสในคำเดียว คือหวานมันอบกะทิ และยังบอกอีกว่า ส่วนผสมสำหรับเมนูนี้ก็จัดเตรียมไม่ยากเย็น แต่อาจต้องใช้เวลาเยอะหน่อยในการหมักหมูเพื่อให้เนื้อหมูนุ่มนั่นเอง
– เนื้อหมูสันคอและสันใน
– นมสด
– กะทิ
– ยี่หร่า
– ขมิ้น
– น้ำมันมะกอก
– ซีอิ๊วขาว
– เกลือ
– มะนาว
– พริกไทย
1. หมักเนื้อหมูสันคอและสันใน ด้วยนมสด แล้วนำไปแช่ตู้เย็น 1 ชั่วโมง
2. นำหมูที่หมักนมจนครบ 1 ชั่วโมงออกมา แล้วใส่กะทิผสมกับเครื่องเทศ อย่าง ยี่หร่า ขมิ้น น้ำมันมะกอก ซีอิ๊วขาว เกลือ มะนาว(นิดหน่อย) พริกไทย จากนั้นนวดเพื่อให้เข้ากัน แล้วทิ้งไว้นอกตู้เย็นอีก 1 ชั่วโมง
3. เมื่อครบเวลา นำหมูมาย่างด้วยเตาอบ โดยใช้ไฟอ่อนๆ ประมาณ 150 องศา หรือเตาย่างก็ได้ แต่ถ้ามีเตาถ่านจะดีมาก
4. ระหว่างย่างหมู เอาน้ำที่หมักหมูทาไปเรื่อยๆ จนหมูสุกได้ที่ จัดใส่จาน
5. ตกแต่งจานด้วยถั่งลิสงบด และทาน้ำมันพริกเผาบางๆ ท็อปปิ้งด้วยน้ำตาล น้ำผึ้ง ผสมน้ำส้มสายชูนิดๆ บนหมูสะเต๊ะตอนเสิร์ฟ
ปิดท้ายกันที่เมนู “ยำหมูย่าง” เมนูอาหารที่เหมาะกับทุกครัวเรือน โดยเฉพาะสาวๆ ที่อยากทานอะไรแซ่บๆ แต่ทานกับข้าวสวยร้อนได้ๆ เราขอแนะนำเมนูนี้ แถมเคล็ดลับเด็ดที่เราได้มาจาก BERTOLLI® ผู้สนับสนุนให้คนไทยที่ใช้เวลาอยู่ที่บ้าน ได้แสดงฝีมือการทำอาหาร พร้อมนำเสนอตำราอาหารที่รวบรวมเมนูเด็ดจากเชฟชื่อดังมากมายมาฝากกัน โดยเมนูวันนี้เอาสาวๆ สายแซ่บโดยเฉพาะ
– เนื้อหมูสันนอก
– ซีอิ๊วขาว
– พริกไทยป่น
– น้ำมันมะกอก
– น้ำตาล
– น้ำปลา
– น้ำมะนาว
– พริกจินดาแดง
– หอมแขก
– แตงกวา
– มะเขือเทศ
– ขึ้นฉ่าย
1. หมักเนื้อหมูสันนอก โดยนำซีอิ๊วขาวและพริกไทยป่นถูกกับเนื้อหมู และนวดให้เข้ากัน จากนั้นนำน้ำมันมะกอกมาทาให้ทั่วเนื้อหมู
2. ตั้งกระทะย่างบนไฟอ่อนให้ร้อน นำเนื้อหมูสันนอกที่หมักไว้มาย่างด้วยไฟอ่อน จนค่อยๆ สุกนุ่ม และหั่นเป็นชิ้นบางๆ พักไว้
3. ทำน้ำยำโดยผสมน้ำตาล น้ำปลา และพริกจินดาแดง แล้วคนให้เข้ากัน
4. ใส่เนื้อหมูสันนอกที่หั่นเป็นชิ้นไว้แล้วผสมลงในภาชนะ คลุกเคล้ากับน้ำยำให้เข้ากัน ตามด้วยหอมแขก แตงกวา มะเขือเทศ และขึ้นฉ่าย เคล้าเบาๆ ให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จสิ้น แล้วจัดเสิร์ฟลงในจาน
เป็นไงคะ…ได้สูตรและ “เมนูอาหาร” สำหรับเย็นนี้แล้ว รีบไปจัดเตรียมวัตถุดิบกันเถอะ แล้ววันหน้าเราจะนำ “เมนูอาหาร” มาเสิร์ฟชาว Lady MIRROR อีกแน่นอน รอติดตามกันได้นะคะ