Work From Home แบบนี้ Lady MIRROR แต่ละคนคงทำงานหนักหนาไม่เบา โดยเฉพาะกับการต้องจ้องหน้าจออย่าง คอมพิวเตอร์ มือถือ เพื่อติดต่อพูดคุย หรือประชุมงานเป็นเวลานานๆ อาจทำให้ “ดวงตา” หรือ “สายตา” เมื่อยล้าได้ บางคนอาจได้รับบาดเจ็บเลยก็มี โดยหน้าจอของอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ สมาร์โฟน แท็บเล็ต ฯลฯ ล้วนแต่ปล่อยแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาทั้งสิ้น จนทำให้สาวๆ เกิดอาการตาล้า ตาแห้ง ปวดตา หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นทำให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ ทั้งนี้เมื่อสาวๆ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอได้ MIRROR จึงมีเคล็ดลับการถนอมดวงตา จากเอสซีลอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตาชั้นนำของโลก ถึง วิธีการ “ถนอมดวงตา” ที่สามารถทำได้ง่ายๆ แค่ปรับพฤติกรรมมาฝากกัน

กะพริบตา ลดอาการตาแห้ง

การดูแลสุขภาพดวงตาในช่วงชีวิตติดจอ เราสามารถเริ่มได้จากการกะพริบตาระหว่างการทำงานบ่อยๆ เพื่อให้น้ำมาหล่อเลี้ยงดวงตาและลดอาการตาแห้ง ทราบหรือไม่ว่า เมื่อต้องทำงานหน้าจอ เราจะกะพริบตาน้อยลงถึง 50% ทำให้น้ำในดวงตาระเหยจนเกิดอาการตาแห้งจนเรารู้สึกแสบตา เคืองตา หรือตาเริ่มเบลอ

พักสายตาด้วยเทคนิค 20-20-20

การพักสายตาโดยใช้เทคนิค 20-20-20 นั่นคือการพักสายตาจากหน้าจอทุก 20 นาที โดยมองไปรอบๆ ตัวหรือนอกหน้าต่าง หากเป็นธรรมชาติหรือพื้นที่สีเขียวก็จะดียิ่งขึ้น โดยมองออกไปไกลราว 20 ฟุต อย่างน้อย 20 วินาที เพื่อช่วยให้ดวงตามีการปรับเปลี่ยนระยะโฟกัสและรู้สึกผ่อนคลาย กล่าวง่ายๆ คือทำงาน 20 นาที พัก 20 วินาที และมองออกไปไกล 20 ฟุต นอกจากนี้ควรลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายบ้าง เพื่อเป็นการคลายกล้ามเนื้อของร่างกาย และลดความเสี่ยงการเป็นออฟฟิศซินโดรม

แว่นตาที่มีเลนส์กรองแสงสีน้ำเงิน

หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทำงานกับหน้าจอเป็นระยะเวลานานๆ ได้ ควรเลือกสวมแว่นตาด้วยเลนส์ที่มีคุณสมบัติกรองแสงสีน้ำเงิน เช่น Blue UV Capture หรือ Crizal Prevencia และหากเกิดอาการเมื่อยล้าของดวงตา หรือภาวะตาล้า ซึ่งเกิดจากการจ้องมองหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นานเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนักจากการโฟกัสระยะใกล้ติดต่อกันจนเกิดความล้าสะสม ส่งผลให้เกิดอาการปวดกระบอกตา ตาแห้ง คัน หรือแสบตา เห็นภาพพร่ามัว เราควรเลือกใช้เลนส์ที่ช่วยลดการบิดเบือนของแสง เพื่อลดภาระการทำงานของดวงตา 

จัดสถานที่ถนอมดวงตา

การจัดสถานที่ทำงานก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพดวงตาของเรา ห้องทำงานควรมีแสงสว่างเพียงพอ และปรับความสว่างของหน้าจออุปกรณ์ให้เหมาะสม โดยไม่ควรตั้งค่าหน้าจอให้สว่างจ้าจนแสบตา หรือดำมืดจนต้องเพ่งสายตามากกว่าปกติ ควรปรับให้รู้สึกสบายตาเข้ากับสภาพแวดล้อมภายในห้องมากที่สุด หลีกเลี่ยงการตั้งโต๊ะทำงานหรือคอมพิวเตอร์ในบริเวณที่หลอดไฟส่องสะท้อนหน้าจอ และระดับของโต๊ะทำงานต้องไม่สูงหรือต่ำเกินไป ควรอยู่ในระดับที่พอดี ซึ่งทำให้เราไม่ต้องก้มหรือเงยหน้าพิมพ์งานมากเกินไป เพื่อป้องกันอาการปวดคอ บ่า ไหล่ หรือหลังในระยะยาว

ทำความสะอาดแว่นและเลนส์ ลดการติดเชื้อ

แม้การสวมใส่แว่นตาจะช่วยลดการสัมผัสดวงตาก็ตาม แต่เราต้องไม่ลืมที่จะทำความสะอาดแว่นและเลนส์เป็นประจำอย่างน้อยวันละครั้ง แม้การใช้เลนส์มัลติโค้ทคุณภาพ จะช่วยให้เลนส์เคลียร์ใสได้ตลอดวัน แต่เชื้อโรคเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และสามารถคงอยู่บนพื้นผิววัตถุได้นานนับชั่วโมงหรือนานตลอดวัน ดังนั้น เราจึงไม่ควรมองข้ามวิธีง่ายๆ ในการป้องกันเชื้อโรคอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด นั่นคือการทำความสะอาดแว่นและเลนส์ และเพิ่มความมั่นใจกับความปลอดเชื้อมากยิ่งขึ้น โดยเช็ดด้วยแอลกอฮอล์บนผิวเลนส์ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเลนส์ เนื่องจากเลนส์เป็นส่วนที่ควรสะอาดที่สุด เพราะอยู่ใกล้ดวงตาของเรามากที่สุด