23 พ.ย. 2562 08:14 น.
“สิว” ปัญหากวนใจของสาวๆ หลายคน จริงมั้ยคะ Lady Mirror จะแต่งหน้าให้สวยใสไปออกงานสักหน่อย แต่ก็มีเจ้าสิวรบกวนจิตใจและใบหน้า ทำให้หมดความมั่นใจไปเสียอย่างนั้น วิธีการที่ดีที่สุดในการกำจัดสิว เห็นทีต้องแนะนำให้พึ่งพาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ เพราะเจ้าสิวที่ขึ้นบนใบหน้าแต่ละชนิดนั้น มีความแตกต่างกัน หากกดบีบหรือแกะเกา จะมีแต่ทำให้ใบหน้าช้ำเป็นรอยแดงและมีรอยแผลเป็นได้ ดังนั้นการได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี น่าจะเป็นคำแนะนำที่ดีที่สุด…(รักษาสิว ด้วย “สมุนไพร” ธรรมชาติ)
แต่อย่างไรก็ตาม…คุณสาวๆ รู้หรือไม่ “ตำแหน่ง” ของ “สิว” ที่ขึ้นบนใบหน้านั้นบ่งบอกอะไร เมื่อสิวปรากฏบนตำแหน่งไหนของใบหน้า แสดงว่าอวัยวะภายในอาจส่งสัญญาณเตือน ว่ากำลังมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณ หรือบางตำแหน่งอาจเป็นแค่สิ่งสกปรกที่ตกค้างบนใบหน้าได้เช่นกัน เรามาดูกันดีกว่าว่าตำแหน่งของ “สิว” บ่งบอกอะไร?
บริเวณหน้าผาก – ระบบทางเดินอาหาร
หากสาวๆ เป็น “สิว” บริเวณหน้าผาก จะกลางหน้าผาก ด้านซ้าย หรือด้านขวา และไม่ว่าจะสิวอุดตันหรือสิวอักเสบขนาดใหญ่ ที่เกิดจากการใช้ยาสระผม หรือการทำความสะอาดใบหน้าไม่เพียงพอ ทำให้หลงเหลือครีมรองพื้และแป้ง รวมถึงการใช้ดินสอเขียนคิ้ว มาสคาร่าคิ้ว แล้วล้างออกไม่หมด ทำให้สะสมจนเป็นสิวแล้ว จุดนี้ยังเกี่ยวข้องกับระบบของทางเดินอาหารและระบบย่อยอาหารด้วย ที่รวมถึงกระเพาะปัสสาวะ และต่อมหมวกไต ทั้งนี้สาเหตุเกิดจากการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม หรือได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ รวมถึงความเครียด และการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตามจากปัญหาข้างต้น เราขอแนะนำให้เลือกใช้แชมพูที่ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน สารกันเสีย และน้ำมัน โดย MIRROR Recommend ให้ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนสำหรับเด็ก หรือสูตรที่เหมาะสำหรับหนังศีรษะแพ้ง่าย และที่สำคัญควรลดอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง รวมถึงควรดื่มน้ำให้มากๆ ด้วย
บริเวณระหว่างหัวคิ้ว – ตับ ภูมิคุ้มกัน
จุดนี้คือจุดที่ปวดที่สุด เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงเคยเป็น “สิว” ที่บริเวณระหว่างคิ้ว เอามือไปโดนจะต้องมีร้องเป็นแน่ๆ คนโบราณมักบอกว่า หากเป็นสิวบริเวณนี้ ห้ามบีบเด็ดขาด! เพราะอาจจะเสียชีวิตได้ MIRROR จึงหาข้อเท็จจริงมาฝาก ทราบว่า…บริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมกลางใบหน้านั้น จะมีเส้นเลือดที่เชื่อมต่อไปยังด้านหลังของศีรษะ คือบริเวณสมองส่วนท้าย ทั้งนี้หากบีบสิวจนเกิดการติดเชื้อและอักเสบขึ้นมา หมายความว่ามันจะลุกลามเข้าสู่สมองของคุณได้โดยตรง อันตรายจริงๆ นะคะ ทีนี้มาดูว่า สิวบริเวณระหว่างหัวคิ้วนั้น มีความเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันและการทำงานของตับ ทั้งนี้หากใครมีสิวขึ้นตำแหน่งนี้บ่อยๆ อาจต้องดูว่า…เรารับประทานอาหารที่มีไขมันทรานส์มากไปหรือไม่ หากใครนึกภาพไขมันทรานส์ไม่ออก ข้ามไปที่อาหารเลยจ้า เช่น ของทอด ของมัน ฟาสต์ฟู้ด หรือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งหมดนี้ส่งผลต่อการทำงานของตับ ที่ทำหน้าที่กำจัดพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย ที่จะส่งผลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันต่ำได้ และเมื่อตับมีปัญหาจะไม่สามารถย่อยแลคโทสได้ จึงแนะนำว่าไม่ควรดื่มนม และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด หรือการรับประทานอาหารดึกจนเกินไป
บริเวณจมูก – หัวใจ ระบบไหลเวียนเลือด ฮอร์โมน
สาวๆ หน้ามัน ไม่แปลกใจเลยใช่มั้ย ทำไมถึงเป็นสิวที่จมูกอยู่บ่อยๆ เพราะบริเวณจมูกเป็นโซนที่มีต่อมไขมันมาก จึงทำให้เกิด “สิว” อักเสบได้ง่าย ทั้งนี้หากสิวเกิดขึ้นตำแหน่งนี้ จะเกี่ยวข้องกับการทำงานของหัวใจ ระบบไหลเวียนเลือด เช่น ความดันโลหิตสูง รวมถึงผลกระทบที่อาจส่งผลกับฮอร์โมน โดยเฉพาะช่วงมีประจำเดือน วัยทอง และการใช้ยาคุมกำเนิด MIRROR ขอแนะนำสาวๆ ที่มีสิวขึ้นตำแหน่งนี้บ่อยๆ ให้รับประทานอาหารที่มีโฟเลต เช่น ตับ ไข่แดง ผักใบเขียว วิตามินบี 6 อย่างรำข้าว จมูกข้าวสาลี หรือธัญพืชไม่ขัดสี และวิตามินบี 12 อย่างนม โยเกิร์ต ชีส หอยลาย หรือปลาทะเล ก็จะช่วยให้ระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดีขึ้น
บริเวณแก้ม – ระบบหายใจ
บริเวณนี้คือจุดที่กว้างขวางมากที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ในการแต่งหน้าและคุยโทรศัพท์มือถือ อันดับแรกจงดูว่า เราทำความสะอาดใบหน้า และโทรศัพท์ที่ใช้แนบแก้มเพียงพอหรือยัง จนทำให้เกิดสิวอักเสบขึ้นมา ก่อนที่จะไปมองหาสาเหตุที่เกิดจากภายใน สำหรับ “สิว” ที่เกิดบริเวณ “แก้ม” จะเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ หากมีรอยลึกที่โหนกแก้ม นั่นอาจหมายถึงการหายใจและปอด สำหรับแก้มส่วนบน จะเกี่ยวข้องกับไซนัสและปอด ส่วนแก้มส่วนล่าง จะเกี่ยวข้องกับเหงือกและฟัน อย่างไรก็ตามสิวบริเวณนี้อาจเกิดกับผู้ที่สูบบุหรี่จัด หรือต้องเจอมลภาวะบ่อยๆ รวมถึงผู้ที่มีอาการภูมิแพ้กำเริบด้วย
บริเวณคาง ริมฝีปาก – ฮอร์โมน รังไข่
“สิว” ที่เกิดบริเวณคางและริมฝีปาก มักเกิดขึ้นกับผู้หญิงเป็นเรื่องปกติ เพราะตำแหน่งนี้เกี่ยวข้องกับการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย เราจะสังเกตได้ว่า หากจะมีประจำเดือน สาวๆ มักจะเป็นสิวบริเวณนี้เสมอๆ ดังนั้นหากไม่อยากเป็นรอยดำ หลุมสิว หรือแผลเป็น ไม่ควรกด บีบ แกะ และเกาสิวบริเวณนี้โดยเด็ดขาด เพราะมันจะขึ้นอยู่ตลอดเวลาที่มีประจำเดือน แต่อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้เกิดขึ้นเพราะฮอร์โมนหรือจะมีประจำเดือน แสดงว่ารังไข่หรือมดลูกมีปัญหา ทั้งนี้ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ที่บริเวณปลายคาง ยังบ่งบอกถึงความผิดปกติของกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กด้วย ทั้งนี้ควรงดอาหารรสจัดและเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน เพื่อเป็นการช่วยย่อยได้อีกทางหนึ่ง.
ที่มา : https://www.thairath.co.th/women/beauty/health/1708211
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/women/beauty/health/1708211